ส่วนประกอบ
ปลาจาระเม็ดล้างแล้วบั้งให้สะอาด 1 ตัว
หมูบด 50 กรัม
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อนยาว 1 นิ้ว ½ ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 1 เม็ด
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำหั่นเป็นเส้น 2 ดอก
ขิงซอย ¼ ถ้วยตวง
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เต้าซี่ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโตะ
เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำป่น ¼ ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอดปลา
วิธีทำ
นำปลาจาระเม็ดที่บั้งเตรียมไว้คลุกกับคนอร์อรอ่ยชัวร์ 1 ช้อนชา แล้วนำไปทอดจนกรอบเหลือง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรงจนร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวพอหอม ใส่หมูลงไปผัดพอสุก ใส่เห็ดหอม เต้าซี่ ขิง น้ำมันหอย น้ำตาล คนอร์อร่อยชัวร์ เหล้าจีนและใส่น้ำลงไปผัดให้เข้ากัน
จัดเสิร์ฟโดยวางปลาจาระเม็ดทอดลงบนจานราดด้วยซอสที่ผัด ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าและขึ้นฉ่ายพร้อมเสิร์ฟ
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
หมูมะนาว
ส่วนประกอบ
หมูสันนอกหั่นชิ้นบางขนาดพอคำ 300 กรัม
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
กระเทียมโทนดอง หรือกระเทียมสดหั่นบาง 3 หัว
ส่วนประกอบน้ำยำ
พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
กระเทียม 10 กลีบ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
โขลกพริกขี้หนูสวน และกระเทียมให้ละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว คนอร์อร่อยชัวร์ และน้ำตาล ชิมรสตามชอบ พักไว้
นำหมูมาหมักด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ประมาณ 10 นาที แล้วตั้งหม้อต้มน้ำบนไฟกลางจนเดือดจัด ใส่หมูลงไปลวก (ลวกแค่หมูสะดุ้ง เพราะเนื้อหมูบางอยู่แล้ว) ตักเนื้อหมูขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เสร็จแล้วจัดหมูใส่จาน โรยด้วยกระเทียมโทนดอง ราดด้วยน้ำราดที่เตรียมไว้ ยกเสิร์ฟพร้อมกับผักสดตามชอบ หรือก้านคะน้าแช่น้ำแข็ง
หมายเหตุ ถ้าไม่ชอบกระเทียมโทนสามารถเปลี่ยนเป็นกระเทียมสดได้
วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
หมูผัดกะปิ
ส่วนประกอบ
หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ 250 กรัม
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
พริกขี้หนูแดงซอย 2 เม็ด
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า(สำหรับต้มหมู) 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
แบ่งน้ำเปล่ามาละลายกะปิพักไว้ ตั้งหม้อต้มหมูสามชั้นที่หั่นไว้จนหมูสุกนุ่ม นำขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้
นำกระเทียมกับพริกขี้หนูมาโขลกพอละเอียด แล้วพักไว้
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางพอร้อน ใส่กระเทียม และพริกผัดให้หอม ใส่กะปิที่ละลายไว้ ผัดจนกะปิมีกลิ่นหอม ขณะผัดให้ระวังกะปิไหม้ ใส่หมูสามชั้นต้มลงไปผัดให้เข้ากัน
ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ น้ำตาลปีบ และน้ำปลา ชิมรสตามใจชอบ แล้วใส่ใบมะกรูดฉีก และพริกชี้ฟ้าลงไป ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ ถ้าชอบเผ็ดมาก แนะนำให้ใช้พริกขี้หนูสวน
ปูม้าผัดพริกไทยดำ
ส่วนประกอบ
ปูม้า (ประมาณ 2-3 ตัว) 400-500 กรัม
พริกไทยดำบุบหยาบ ½ ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ ½ ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ ¼ หัวใหญ่
พริกหวานสีเขียว แดง เหลืองอย่างละ ¼ ลูก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ ¼ ช้อนชา
คนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
เหล้าจีน ½ ช้อนโต๊ะ (ไม่มีไม่ต้องใส่)
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอดปู
วิธีทำ
ดึงกระดองปู ฟองน้ำข้างตัวปูออก ล้างให้สะอาด และสับเป็นชิ้นใหญ่ ทุบก้ามปูพอเปลือกแตก แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนพอสุก พักไว้
นำน้ำมันใส่กระทะ ตั้งไฟพอร้อนใส่กระเทียมเจียวในน้ำมันจนเหลืองหอม ใส่พริกไทยดำ น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ซีอิ๊วดำ เหล้าจีนและคนอร์อร่อยชัวร์ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำเปล่าลงผัดเล็กน้อย
ใส่หอมหัวใหญ่ พริกหวาน 3 สีลงไปผัดให้เข้ากันและเดือด ใส่ปูที่เตรียมไว้ลงไปผัดจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว
หมายเหตุ
พริกไทยดำนำมาคั่วก่อนบดจะทำให้หอมมากขึ้น และถ้าชอบเผ็ดพริกไทยสามารถเพิ่มพริกไทยได้อีกตามชอบ
ข้าวหน้าไก่
ส่วนประกอบ
รากผักชีทุบ 3 ราก
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าว 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
พริกไทยป่นเยอะ ๆ ตามชอบ
วิธีทำ
นำเนื้อไก่ไปหมักกับรากผักชี ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา พริกไทย และคนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วนำเข้าตู้เย็นหมักต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟร้อน ใส่กระเทียมลงไป ตามด้วยขิงแก่หั่นเป็นแว่นๆ แล้วผัดให้ได้กลิ่นหอมของขิง เมื่อได้กลิ่นขิงและกระเทียมหอมแล้ว ใส่เนื้อไก่ที่หมักไว้ตามลงไป ผัดเนื้อไก่ให้ทั่วพอสุก แล้วใส่น้ำเปล่า หรือน้ำซุปลงให้ท่วมเนื้อไก่ แล้วใส่คนอร์ที่เหลืออีก ½ ช้อนโต๊ะ ปล่อยทิ้งให้เดือดพล่านแล้วเอาแป้งทั้งสองชนิดที่ละลายน้ำไว้ใส่ และคนให้กระจาย คนเร็วๆ ไม่เช่นนั้นแป้งจะจับตัวเป็นก้อน
ต้มต่อจนเดือดชิมรสตามชอบแล้วปิดไฟ เสิร์ฟโดยราดบนข้าวสวยร้อนๆ
หมายเหตุ เครื่องเคียงที่เหมาะกับข้าวหน้าไก่คือกุนเชียง พริกชี้ฟ้าเขียว และต้นหอม รับประทานกับข้าวสวยร้อนเป็นข้าวหน้าไก่ หรือบะหมี่หน้าไก่ ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไก่ขอแนะนำให้ทานกับผักกาดหอมจะเข้ากัน นอกจากพริกชี้ฟ้าสดแล้วเรายังทานข้าวหน้าไก่กับพริกน้ำส้มแบบพริกโขลกละเอียด
รากผักชีทุบ 3 ราก
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าว 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
พริกไทยป่นเยอะ ๆ ตามชอบ
วิธีทำ
นำเนื้อไก่ไปหมักกับรากผักชี ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา พริกไทย และคนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วนำเข้าตู้เย็นหมักต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟร้อน ใส่กระเทียมลงไป ตามด้วยขิงแก่หั่นเป็นแว่นๆ แล้วผัดให้ได้กลิ่นหอมของขิง เมื่อได้กลิ่นขิงและกระเทียมหอมแล้ว ใส่เนื้อไก่ที่หมักไว้ตามลงไป ผัดเนื้อไก่ให้ทั่วพอสุก แล้วใส่น้ำเปล่า หรือน้ำซุปลงให้ท่วมเนื้อไก่ แล้วใส่คนอร์ที่เหลืออีก ½ ช้อนโต๊ะ ปล่อยทิ้งให้เดือดพล่านแล้วเอาแป้งทั้งสองชนิดที่ละลายน้ำไว้ใส่ และคนให้กระจาย คนเร็วๆ ไม่เช่นนั้นแป้งจะจับตัวเป็นก้อน
ต้มต่อจนเดือดชิมรสตามชอบแล้วปิดไฟ เสิร์ฟโดยราดบนข้าวสวยร้อนๆ
หมายเหตุ เครื่องเคียงที่เหมาะกับข้าวหน้าไก่คือกุนเชียง พริกชี้ฟ้าเขียว และต้นหอม รับประทานกับข้าวสวยร้อนเป็นข้าวหน้าไก่ หรือบะหมี่หน้าไก่ ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวราดหน้าไก่ขอแนะนำให้ทานกับผักกาดหอมจะเข้ากัน นอกจากพริกชี้ฟ้าสดแล้วเรายังทานข้าวหน้าไก่กับพริกน้ำส้มแบบพริกโขลกละเอียด
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
มัสมั่นเนื้อ
ส่วนประกอบ
เนื้อสันนอก หรือเนื้อน่องหั่นเต๋า 1.5X1.5 นิ้ว 1 กิโลกรัม
หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
หางกะทิ 4 ถ้วยตวง
ถั่วลิสงคั่ว ¼ ถ้วย
หอมใหญ่หัวเล็ก หรือหอมแขก 5 หัว
มันฝรั่งหั่นเต๋าใหญ่ 2 หัว
ลูกกระวานคั่ว 5 ลูก (ใช้สำหรับลอยน้ำแกง)
อบเชยคั่วยาว 1 ซม. 1 ชิ้น (ใช้สำหรับลอยน้ำแกง)
น้ำมะขามเปียกข้นๆ ประมาณ 1/3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ ประมาณ 1/3 ถ้วยตวง
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์ซุปเนื้อก้อน 2 ก้อน
เครื่องแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ 9 เม็ด
หอมแดงซอย 7 หัว
กระเทียมแกะเปลือก 12 กลีบ
ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ลูกผักชี และรากผักชี อย่างละ 1 ช้อนชา
ข่าซอย 5 แว่น
พริกไทย 12 เม็ด
ยี่หร่า ½ ช้อนชา
ลูกกระวานคั่ว (แกะเอาเมล็ดข้างในคั่ว) 2 ลูก
อบเชยคั่ว 1 ½ เซนติเมตร
กานพลู 3 ดอก
กะปิเผา 2 ช้อนชา
เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ
นำหัวหอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ลูกผักชี รากผักชี พริกไทย ยี่หร่า ลูกกระวาน อบเชย และกานพลูไปคั่วด้วยไฟอ่อนให้หอม โขลกเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด แล้วพักไว้
ต้มเนื้อกับหางกะทิประมาณ 30 นาที จนเนื้อสุกพักไว้ (เก็นน้ำต้มเนื้อไว้) นำหัวกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง ตั้งไฟใส่เครื่องแกงลงผัดจนหอมและแตกมัน (ระหว่างผัด หากแห้งเกินไปสามารถเติมหัวกะทิเพิ่มได้) นำเนื้อที่ต้มไว้ลงไปผัด ใส่หัวกะทิที่เหลือ และน้ำต้มเนื้อที่เหลือ
เมื่อน้ำกะทิเดือด ใส่คนอร์ซุปเนื้อก้อน มันฝรั่ง หัวหอมใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว ลูกกระวาน และ อบเชยแท่งลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปีบ และน้ำมะขามเปียก เคี่ยวต่ออีกประมาณ 15-20 นาที หรือจนเนื้อสุกนุม
หมายเหตุ รับประทานคู่กับขิงดอง แตงกวาดอง หรือ น้ำอาจาด เนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อส่วนอื่นๆ ได้ตามชอบแต่อาจจะใช้เวลาการเคี่ยวให้นุ่มไม่เท่ากัน
เนื้อสันนอก หรือเนื้อน่องหั่นเต๋า 1.5X1.5 นิ้ว 1 กิโลกรัม
หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
หางกะทิ 4 ถ้วยตวง
ถั่วลิสงคั่ว ¼ ถ้วย
หอมใหญ่หัวเล็ก หรือหอมแขก 5 หัว
มันฝรั่งหั่นเต๋าใหญ่ 2 หัว
ลูกกระวานคั่ว 5 ลูก (ใช้สำหรับลอยน้ำแกง)
อบเชยคั่วยาว 1 ซม. 1 ชิ้น (ใช้สำหรับลอยน้ำแกง)
น้ำมะขามเปียกข้นๆ ประมาณ 1/3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ ประมาณ 1/3 ถ้วยตวง
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์ซุปเนื้อก้อน 2 ก้อน
เครื่องแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ 9 เม็ด
หอมแดงซอย 7 หัว
กระเทียมแกะเปลือก 12 กลีบ
ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ลูกผักชี และรากผักชี อย่างละ 1 ช้อนชา
ข่าซอย 5 แว่น
พริกไทย 12 เม็ด
ยี่หร่า ½ ช้อนชา
ลูกกระวานคั่ว (แกะเอาเมล็ดข้างในคั่ว) 2 ลูก
อบเชยคั่ว 1 ½ เซนติเมตร
กานพลู 3 ดอก
กะปิเผา 2 ช้อนชา
เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ
นำหัวหอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ลูกผักชี รากผักชี พริกไทย ยี่หร่า ลูกกระวาน อบเชย และกานพลูไปคั่วด้วยไฟอ่อนให้หอม โขลกเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด แล้วพักไว้
ต้มเนื้อกับหางกะทิประมาณ 30 นาที จนเนื้อสุกพักไว้ (เก็นน้ำต้มเนื้อไว้) นำหัวกะทิ 1 ½ ถ้วยตวง ตั้งไฟใส่เครื่องแกงลงผัดจนหอมและแตกมัน (ระหว่างผัด หากแห้งเกินไปสามารถเติมหัวกะทิเพิ่มได้) นำเนื้อที่ต้มไว้ลงไปผัด ใส่หัวกะทิที่เหลือ และน้ำต้มเนื้อที่เหลือ
เมื่อน้ำกะทิเดือด ใส่คนอร์ซุปเนื้อก้อน มันฝรั่ง หัวหอมใหญ่ ถั่วลิสงคั่ว ลูกกระวาน และ อบเชยแท่งลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปีบ และน้ำมะขามเปียก เคี่ยวต่ออีกประมาณ 15-20 นาที หรือจนเนื้อสุกนุม
หมายเหตุ รับประทานคู่กับขิงดอง แตงกวาดอง หรือ น้ำอาจาด เนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อส่วนอื่นๆ ได้ตามชอบแต่อาจจะใช้เวลาการเคี่ยวให้นุ่มไม่เท่ากัน
ข้าวต้มกุ้งเห็ดหอม
ส่วนประกอบ
ข้าวสารหอมมะลิ (150 กรัม) 1 ถ้วยตวง
กุ้งสดปอกเปลือก (ประมาณ 250 กรัม) 1 ถ้วยตวง
คนอร์ซุปหมูก้อน 3 ก้อน
ตังฉ่าย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง 10 ดอก
ขิงซอยสำหรับโรยหน้า
ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายซอย และพริกไทย สำหรับโรยหน้าตามชอบ
วิธีทำ
นำข้าวสารไปล้างให้สะอาดแล้วพักไว้ หลังจากนั้นน้ำใส่หม้อตั้งไฟไว้ ใส่ข้าวสารลงไปต้มจนเดือด แล้วหรี่ไฟลง โดยใช้ไฟอ่อนจนข้าวเริ่มสุกประมาณ 8-10 นาที
นำคนอร์ซุปหมูก้อน และตังฉ่ายใส่ลงไปในหม้อ
เร่งไฟให้เดือดแรงๆ ใส่เห็ดหอม และกุ้ง เมื่อส่วนผสมเริ่มสุกให้ปิดไฟ
นำขิงซอย ต้นหอม ผักชี ผักชีใหญ่ กระเทียมเจียว และพริกไทยโรยหน้าตามชอบพร้อมเสิร์ฟ
ข้าวสารหอมมะลิ (150 กรัม) 1 ถ้วยตวง
กุ้งสดปอกเปลือก (ประมาณ 250 กรัม) 1 ถ้วยตวง
คนอร์ซุปหมูก้อน 3 ก้อน
ตังฉ่าย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหอมสดผ่าครึ่ง 10 ดอก
ขิงซอยสำหรับโรยหน้า
ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายซอย และพริกไทย สำหรับโรยหน้าตามชอบ
วิธีทำ
นำข้าวสารไปล้างให้สะอาดแล้วพักไว้ หลังจากนั้นน้ำใส่หม้อตั้งไฟไว้ ใส่ข้าวสารลงไปต้มจนเดือด แล้วหรี่ไฟลง โดยใช้ไฟอ่อนจนข้าวเริ่มสุกประมาณ 8-10 นาที
นำคนอร์ซุปหมูก้อน และตังฉ่ายใส่ลงไปในหม้อ
เร่งไฟให้เดือดแรงๆ ใส่เห็ดหอม และกุ้ง เมื่อส่วนผสมเริ่มสุกให้ปิดไฟ
นำขิงซอย ต้นหอม ผักชี ผักชีใหญ่ กระเทียมเจียว และพริกไทยโรยหน้าตามชอบพร้อมเสิร์ฟ
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า
ส่วนประกอบ
เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแล้วประมาณ 300 กรัม
เบคอนหั่นชินเล็ก 100 กรัม
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋าเล็ก (1 หัวเล็ก) 100 กรัม
กระเทียมสับ 4 กลีบใหญ่
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม ½ ถ้วยตวง
ไข่ฟองใหญ่ 1 ฟอง
พาร์มีซานชีส ขูดฝอย 4 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดพร้อมทั้งใส่เกลือและน้ำมันมะกอก แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป คนให้เส้นจมน้ำหมดทุกเส้น หรี่ไฟอ่อนพร้อมปิดฝา ต้มประมาณ15 นาที แล้วเช็คว่าสุกหรือไม่ (ลองหักว่า ข้างในเป็นสีเสมอกันหรือไม่ หากตรงกลางมีสีขาวๆ แสดงว่ายังไม่สุก) นำเส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแช่น้ำเย็นสักครู่ สะเด็ดน้ำออก นำไปคลุกกับน้ำมันพืช พักไว้
นำวิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และ พาร์มีซานชีสขูดฝอยมาผสมในถ้วย คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ และพริกไทย
นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่เนยลงไป เมื่อเนยละลายให้ใส่หอมใหญ่ที่ซอยไว้ลงไปผัดพอหอม แล้วใส่เบคอนลงไปทอดให้กรอบ (หากไม่ชอบทานเบคอน สามารถเปลี่ยนเป็นไส้กรอกได้)
ใส่กระเทียมลงไปพร้อมผัดให้เข้ากันจนกระเทียมเปลี่ยนสี เมื่อกระเทียมกรอบได้ที่แล้วก็นำเส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมใส่ลงไป ตามด้วยส่วนผสมวิปปิ้งครีมพร้อมปิดไฟทันที คนเร็วๆ ให้ครีมเข้ากันดีกับเส้น นำใส่จานแล้วโรยพาร์มีซานชีสส่วนที่เหลือพร้อมเสิร์ฟ
เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแล้วประมาณ 300 กรัม
เบคอนหั่นชินเล็ก 100 กรัม
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋าเล็ก (1 หัวเล็ก) 100 กรัม
กระเทียมสับ 4 กลีบใหญ่
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม ½ ถ้วยตวง
ไข่ฟองใหญ่ 1 ฟอง
พาร์มีซานชีส ขูดฝอย 4 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดพร้อมทั้งใส่เกลือและน้ำมันมะกอก แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป คนให้เส้นจมน้ำหมดทุกเส้น หรี่ไฟอ่อนพร้อมปิดฝา ต้มประมาณ15 นาที แล้วเช็คว่าสุกหรือไม่ (ลองหักว่า ข้างในเป็นสีเสมอกันหรือไม่ หากตรงกลางมีสีขาวๆ แสดงว่ายังไม่สุก) นำเส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแช่น้ำเย็นสักครู่ สะเด็ดน้ำออก นำไปคลุกกับน้ำมันพืช พักไว้
นำวิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และ พาร์มีซานชีสขูดฝอยมาผสมในถ้วย คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ และพริกไทย
นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่เนยลงไป เมื่อเนยละลายให้ใส่หอมใหญ่ที่ซอยไว้ลงไปผัดพอหอม แล้วใส่เบคอนลงไปทอดให้กรอบ (หากไม่ชอบทานเบคอน สามารถเปลี่ยนเป็นไส้กรอกได้)
ใส่กระเทียมลงไปพร้อมผัดให้เข้ากันจนกระเทียมเปลี่ยนสี เมื่อกระเทียมกรอบได้ที่แล้วก็นำเส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมใส่ลงไป ตามด้วยส่วนผสมวิปปิ้งครีมพร้อมปิดไฟทันที คนเร็วๆ ให้ครีมเข้ากันดีกับเส้น นำใส่จานแล้วโรยพาร์มีซานชีสส่วนที่เหลือพร้อมเสิร์ฟ
ยำหมูย่างกับแอปเปิ้ล
ส่วนประกอบ
แอปเปิ้ลหั่นเป็นแท่ง หรือชิ้นพอคำ 3 ถ้วย
มะเขือเทศเชอร์รี่ผ่าครึ่ง 10 ลูก
หัวหอมใหญ่หั่นเสี้ยวบาง ¼ ถ้วยตวง
หมูสันนอก 200 กรัม
คนอร์ผงปรุงรสหมู (สำหรับหมักหมู) 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนชา
ต้นหอมหั่นท่อน และขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 นิ้วตามชอบ
วิธีทำ
ปรุงน้ำยำด้วยการผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล พริกขี้หนู และคนอร์อร่อยชัวร์ให้เข้ากัน แล้วพักไว้ แล่หมูเป็นชิ้นไม่ควรให้บางมาก นำหมูที่หั่นไว้หมักกับคนอร์ผงปรุงรสหมู นาน ½ ชั่วโมง นำไปทอดจนสุกเหลือง หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พักไว้
ขณะรับประทาน นำแอปเปิ้ล หมูทอด หัวหอมใหญ่ มะเขือเทศ และน้ำยำ ผสมให้เข้ากัน
ใส่ต้นหอม และขึ้นฉ่ายผสมพอเข้ากันอีกครั้ง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
แอปเปิ้ลหั่นเป็นแท่ง หรือชิ้นพอคำ 3 ถ้วย
มะเขือเทศเชอร์รี่ผ่าครึ่ง 10 ลูก
หัวหอมใหญ่หั่นเสี้ยวบาง ¼ ถ้วยตวง
หมูสันนอก 200 กรัม
คนอร์ผงปรุงรสหมู (สำหรับหมักหมู) 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนชา
ต้นหอมหั่นท่อน และขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 นิ้วตามชอบ
วิธีทำ
ปรุงน้ำยำด้วยการผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล พริกขี้หนู และคนอร์อร่อยชัวร์ให้เข้ากัน แล้วพักไว้ แล่หมูเป็นชิ้นไม่ควรให้บางมาก นำหมูที่หั่นไว้หมักกับคนอร์ผงปรุงรสหมู นาน ½ ชั่วโมง นำไปทอดจนสุกเหลือง หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พักไว้
ขณะรับประทาน นำแอปเปิ้ล หมูทอด หัวหอมใหญ่ มะเขือเทศ และน้ำยำ ผสมให้เข้ากัน
ใส่ต้นหอม และขึ้นฉ่ายผสมพอเข้ากันอีกครั้ง จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
ยำปลาดุกฟู
ส่วนประกอบ
ปลาดุกขนาด (500 กรัม) 1 ตัว
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
เกล็ดขนมปัง ½ ถ้วย
ส่วนผสมน้ำยำ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปีบ 5 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนบุบ 10–15 เม็ด
เติมหัวหอมแดงซอย ¼ ถ้วย
มะม่วงดิบ(เปรี้ยว)ซอย 1 ลูกหรือ 1 ถ้วยตวง
ขึ้นฉ่าย ½ ถ้วยตวง
ถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ¼ ถ้วยตวง
วิธีทำ
ล้างปลาดุกให้สะอาดบั้งแล้วทาด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ให้ทั่วนำปลาดุกไปย่างจนสุก แล้วแกะเอาแต่เนื้อปลาจากนั้นนำมาสับรวมกันกับเกล็ดขนมปัง
ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันรอจนร้อน ใส่ปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อให้เนื้อปลาฟูน่ารับประทาน ควรรีบคนให้เนื้อปลากระจายตัวไม่เช่นนั้นเนื้อปลาจะจับตัวเป็นก้อนตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ทำน้ำยำโดยการผสมเครื่องปรุงสำหรับผสมน้ำยำทั้งหมดเข้าด้วยกัน (ยกเว้นขึ้นฉ่ายและถั่วลิสง)เวลารับประทานให้ราดน้ำยำลงบนปลาดุกฟูที่ทอดไว้โรยถั่วลิสงทอดและขึ้นฉ่าย เพื่อความอร่อยมากยิ่งขึ้นควรรับประทานคู่กับผักกาดหอม
ปลาดุกขนาด (500 กรัม) 1 ตัว
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
เกล็ดขนมปัง ½ ถ้วย
ส่วนผสมน้ำยำ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปีบ 5 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนบุบ 10–15 เม็ด
เติมหัวหอมแดงซอย ¼ ถ้วย
มะม่วงดิบ(เปรี้ยว)ซอย 1 ลูกหรือ 1 ถ้วยตวง
ขึ้นฉ่าย ½ ถ้วยตวง
ถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ¼ ถ้วยตวง
วิธีทำ
ล้างปลาดุกให้สะอาดบั้งแล้วทาด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ให้ทั่วนำปลาดุกไปย่างจนสุก แล้วแกะเอาแต่เนื้อปลาจากนั้นนำมาสับรวมกันกับเกล็ดขนมปัง
ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมันรอจนร้อน ใส่ปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อให้เนื้อปลาฟูน่ารับประทาน ควรรีบคนให้เนื้อปลากระจายตัวไม่เช่นนั้นเนื้อปลาจะจับตัวเป็นก้อนตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ทำน้ำยำโดยการผสมเครื่องปรุงสำหรับผสมน้ำยำทั้งหมดเข้าด้วยกัน (ยกเว้นขึ้นฉ่ายและถั่วลิสง)เวลารับประทานให้ราดน้ำยำลงบนปลาดุกฟูที่ทอดไว้โรยถั่วลิสงทอดและขึ้นฉ่าย เพื่อความอร่อยมากยิ่งขึ้นควรรับประทานคู่กับผักกาดหอม
หมูทอดสมุุนไพร
ส่วนประกอบ
- ใบมะกรูด ½ ถ้วยตวง
- ขิงซอยเป็นเส้น ½ ถ้วยตวง
- ตะไคร้หั่นเป็นเส้น ½ ถ้วยตวง
- กระเทียมซอยบาง ½ ถ้วยตวง
- หัวหอมแดงซอยบาง ½ ถ้วยตวง
- หมูสันนอกหั่นเป็นชิ้นหนา ½ นิ้ว แล้วหั่นเป็นเส้น 500 กรัม
- คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
- น้ำเย็น 80 กรัม ประมาณ ¼ ถ้วยตวง
- คนอร์แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับทอดประมาณ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
- ใส่เนื้อหมู คนอร์อร่อยชัวร์ คนอร์แป้งข้าวโพด และน้ำเย็นลงในกะละมัง คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนผงปรุงรสละลายดี จากนั้นนำไปหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
- ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่น้ำมัน รอจนร้อน นำใบมะกรูด ขิง ตะไคร้ หัวหอม กระเทียมลงไปทอดให้เหลืองกรอบ นำขึ้นจากกระทะสะเด็ดน้ำมัน ผสมสมุนไพรทอดทั้งหมดให้เข้ากัน โรยคนอร์อร่อยชัวร์ลงไป 1 ช้อนชา เพื่อเพิ่มรสชาติ คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง นำมาพักไว้
- นำหมูที่หมักไว้ในตู้เย็นออกมาคนให้เข้า กันอีกครั้ง แล้วนำไปทอดในน้ำมันที่ทอดสมุนไพรให้เหลืองทั้งสองด้าน นำขึ้นจากกระทะสะเด็ดน้ำมัน จัดหมูทอด และสมุนไพรที่ทอดไว้ใส่จานพร้อมเสิร์ฟ ควรรับประทานคู่กันกับซอสพริก หรือน้ำจิ้มไก่
- หมายเหตุ น้ำมันที่ใช้ทอดควรเป็นน้ำมันปาล์มเพราะจะทำให้อาหารที่ทอดกรอบเก็บได้นาน ไม่นิ่ม และหลังจากสะเด็ดน้ำมันแล้วควรเก็บใส่ในภาชนะที่ปิดสนิท
หมูทอดราดซอสพะแนง
ส่วนประกอบ
เนื้อหมูสันนอก 3 ชิ้น ประมาณ 500-600กรัม
แป้งสาลี ½ ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เกล็ดขนมปัง 2 ถ้วย
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้งเด็ดขั้วแช่น้ำจนนิ่มแล้วบีบน้ำออก 10 เม็ด
พริกชี้ฟ้าแห้งเด็ดขั้วแช่น้ำจนนิ่มแล้วบีบน้ำออก 5 เม็ด
หัวหอมแดงปอก 4 หัว
กระเทียมปอกเปลือก 1 หัว
ตะไคร้หั่นซอย 2 ต้น
กะปิดีเผาไฟ 1 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น ¼ ช้อนชา
รากผักชีล้างสะอาดหั่น 3 ราก
พริกไทยเม็ด 20 เม็ด
ลูกผักชีคั่วป่น ¼ ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
นำส่วนผสมทั้งหมดโขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียดพักไว้
เครื่องปรุง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร
พริกแดงหั่นเฉียงเป็นฝอย 1 เม็ด
ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ใบ
วิธีทำ
นำหมูมาทาด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ หมักไว้ประมาณ 20 นาที ใส่แป้งสาลีลงในจาน นำหมูที่หมักแล้วมาคลุก ให้แป้งติดทั่วเนื้อหมู จากนั้นตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้เข้ากัน แล้วจุ่มเนื้อหมูลงไป จากนั้นใส่เกล็ดขนมปังในจานอีกใบ แล้วนำหมูที่พึ่งจุ่มไข่ลงไปคลุกอีกครั้ง นำไปแช่ตู้เย็นสัก 1-2 ชั่วโมง (ช่วยทำให้แป้งติดหมูดียิ่งขึ้น)
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรงจนร้อนร้อน ใส่เนื้อหมูลงทอดให้เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นพักไว้
ทำซอสโดย นำกะทิลงไปเคี่ยวในกระทะจนกะทิแตกมัน ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ ผัดจนเครื่องแกงหอม แล้วเติมน้ำลงไป
ใส่คนอร์ซุปก้อน น้ำตาลปีบ และน้ำปลาลงไป ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน โรยด้วยพริกแดง และใบมะกรูดหั่นฝอย นำซอสพะแนงราดบนหมูที่ทอดไว้พร้อมเสิร์ฟ รับประทานพร้อมผักลวก หรือผักสลัด
เนื้อหมูสันนอก 3 ชิ้น ประมาณ 500-600กรัม
แป้งสาลี ½ ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เกล็ดขนมปัง 2 ถ้วย
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้งเด็ดขั้วแช่น้ำจนนิ่มแล้วบีบน้ำออก 10 เม็ด
พริกชี้ฟ้าแห้งเด็ดขั้วแช่น้ำจนนิ่มแล้วบีบน้ำออก 5 เม็ด
หัวหอมแดงปอก 4 หัว
กระเทียมปอกเปลือก 1 หัว
ตะไคร้หั่นซอย 2 ต้น
กะปิดีเผาไฟ 1 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น ¼ ช้อนชา
รากผักชีล้างสะอาดหั่น 3 ราก
พริกไทยเม็ด 20 เม็ด
ลูกผักชีคั่วป่น ¼ ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
นำส่วนผสมทั้งหมดโขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียดพักไว้
เครื่องปรุง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
คนอร์ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร
พริกแดงหั่นเฉียงเป็นฝอย 1 เม็ด
ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ใบ
วิธีทำ
นำหมูมาทาด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ หมักไว้ประมาณ 20 นาที ใส่แป้งสาลีลงในจาน นำหมูที่หมักแล้วมาคลุก ให้แป้งติดทั่วเนื้อหมู จากนั้นตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้เข้ากัน แล้วจุ่มเนื้อหมูลงไป จากนั้นใส่เกล็ดขนมปังในจานอีกใบ แล้วนำหมูที่พึ่งจุ่มไข่ลงไปคลุกอีกครั้ง นำไปแช่ตู้เย็นสัก 1-2 ชั่วโมง (ช่วยทำให้แป้งติดหมูดียิ่งขึ้น)
ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรงจนร้อนร้อน ใส่เนื้อหมูลงทอดให้เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นพักไว้
ทำซอสโดย นำกะทิลงไปเคี่ยวในกระทะจนกะทิแตกมัน ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ ผัดจนเครื่องแกงหอม แล้วเติมน้ำลงไป
ใส่คนอร์ซุปก้อน น้ำตาลปีบ และน้ำปลาลงไป ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน โรยด้วยพริกแดง และใบมะกรูดหั่นฝอย นำซอสพะแนงราดบนหมูที่ทอดไว้พร้อมเสิร์ฟ รับประทานพร้อมผักลวก หรือผักสลัด
หอยจ้อปู
ส่วนประกอบ
หมูบดแช่เย็น 150 กรัม
มันหมูแข็งหั่นเต๋าเล็กแช่เย็น 50 กรัม
แห้วหั่นเต๋าเล็ก 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เนื้อปู 100 กรัม
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันปาล์มสำหรับทอดประมาณ 500 มล.
ฟองเต้าหู้แผ่นสำหรับห่อและเชือกสำหรับมัดหอยจ้อ
วิธีทำ
นำฟองเต้าหู้แผ่นแช่น้ำ แล้วยกขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้ นำหมูบด มันหมู แห้ว เนื้อปู ไข่ไก่ แป้งสาลี น้ำมันหอยมาผสมกับคนอร์อร่อยชัวร์ให้เข้ากัน
นำส่วนผสมที่ได้มาห่อด้วยแผ่นฟองเต้าหู้ให้เป็นแท่ง แล้วมัดด้วยเชือกให้เป็นท่อนๆ นำหอยจ้อที่ห่อไว้ไปนึ่งประมาณ 10-15 นาทีจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็น
แกะเชือกที่ผูกหอยจ้อออก หั่นเป็นท่อนๆ นำไปทอดในน้ำมันร้อน (อุณหภูมิร้อนปานกลาง) ทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มไก่
หมูบดแช่เย็น 150 กรัม
มันหมูแข็งหั่นเต๋าเล็กแช่เย็น 50 กรัม
แห้วหั่นเต๋าเล็ก 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เนื้อปู 100 กรัม
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันปาล์มสำหรับทอดประมาณ 500 มล.
ฟองเต้าหู้แผ่นสำหรับห่อและเชือกสำหรับมัดหอยจ้อ
วิธีทำ
นำฟองเต้าหู้แผ่นแช่น้ำ แล้วยกขึ้นสะเด็ดน้ำ พักไว้ นำหมูบด มันหมู แห้ว เนื้อปู ไข่ไก่ แป้งสาลี น้ำมันหอยมาผสมกับคนอร์อร่อยชัวร์ให้เข้ากัน
นำส่วนผสมที่ได้มาห่อด้วยแผ่นฟองเต้าหู้ให้เป็นแท่ง แล้วมัดด้วยเชือกให้เป็นท่อนๆ นำหอยจ้อที่ห่อไว้ไปนึ่งประมาณ 10-15 นาทีจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็น
แกะเชือกที่ผูกหอยจ้อออก หั่นเป็นท่อนๆ นำไปทอดในน้ำมันร้อน (อุณหภูมิร้อนปานกลาง) ทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มไก่
หมูย่างโอชา
ส่วนประกอบ
สันคอหมู 1 กิโลกรัม
รากผักชี กระเทียม พริกไทยตำละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสภูเขาทองฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 9 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมซอย 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำมาเคล้ากับหมูให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง หรือหมักไว้ข้ามคืน
นำหมูไปย่างไฟให้สุกทั้งสองด้าน (หรือจะอบก็ได้แล้วแต่สะดวก) รับประทานกับน้ำจิ้มแจ่ว
การทำน้ำจิ้ม โดยนำพริกป่น น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปีบ ข้าวคั่ว และคนอร์อร่อยชัวร์ ใส่ถ้วย ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และหัวหอมซอย ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
หมายเหตุ สามารถเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นเนื้อวัว หรือไก่ได้ตามชอบ การหมักเนื้อสัตว์ ถ้าหมักค้างคืนจะทำให้เข้าเนื้อมากขึ้น ส่วนน้ำจิ้มแจ่ว หากชอบเผ็ดสามารถเติมพริกป่นเพิ่มได้ตามชอบ
สันคอหมู 1 กิโลกรัม
รากผักชี กระเทียม พริกไทยตำละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสภูเขาทองฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 9 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมซอย 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำมาเคล้ากับหมูให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง หรือหมักไว้ข้ามคืน
นำหมูไปย่างไฟให้สุกทั้งสองด้าน (หรือจะอบก็ได้แล้วแต่สะดวก) รับประทานกับน้ำจิ้มแจ่ว
การทำน้ำจิ้ม โดยนำพริกป่น น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปีบ ข้าวคั่ว และคนอร์อร่อยชัวร์ ใส่ถ้วย ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และหัวหอมซอย ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
หมายเหตุ สามารถเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นเนื้อวัว หรือไก่ได้ตามชอบ การหมักเนื้อสัตว์ ถ้าหมักค้างคืนจะทำให้เข้าเนื้อมากขึ้น ส่วนน้ำจิ้มแจ่ว หากชอบเผ็ดสามารถเติมพริกป่นเพิ่มได้ตามชอบ
วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ต้มโคล้งปลาสลิด
ต้มโคล้งปลาสลิด
5 (1) | ให้คะแนน ตำรับ
หากคุณกำลังนึกถึงอาหารไทยแท้รสแซบ ไม่มีส่วนผสมของกะทิ หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรไทยอย่างมะกรูด ตะไคร้ เราขอแนะนำเมนู ต้มโคล้งปลาสลิด เรียกได้ว่า อร่อย ถูกปากทุกคนอย่างแน่นอน
จำนวนคนที่เสิร์ฟ6-7ระยะเวลาการเตรียม15 นาทีระยะเวลาการทำ10 นาที
ส่วนประกอบ
ปลาสลิดทอดหั่นท่อน 1.5 นิ้ว 300 กรัม
เห็ดฟาง 200 กรัม
หัวหอมแดงบุบ 4 หัว
ตะไคร้หั่นท่อน 2 นิ้วบุบ 2 ต้น
รากผักชีบุบ 2 ราก
ข่าหั่นแว่น 6 แว่น
มะเขือเทศสีดา ผ่าครึ่ง 6 ลูก
ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
ผักชีฝรั่ง หั่นเป็นท่อนขนาด ½ นิ้ว 2 ต้น
มะนาว 2-3 ลูก ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ
คนอร์ซุปไก่ก้อน 2 ก้อน
น้ำเปล่า 1 ลิตร
พริกขี้หนูแห้งทอด ตามชอบ
วิธีทำ
นำปลาสลิดมาแกะก้างออก พักไว้
ตั้งหม้อต้มน้ำบนไฟแรงจนน้ำเดือดจัด ใส่ปลาสลิดลงไป ใส่คนอร์ซุปไก่ก้อนลงไปจากนั้นเร่งไฟขึ้น เมื่อน้ำเดือดอีกครั้ง ใส่ข่า ตะไคร้ รากผักชี และหัวหอมแดงลงไป ต้มสักพักจนปลานิ่ม
ใส่เห็ดฟาง ปรุงรสด้วยน้ำปลาให้ออกรสเค็มนำ ใส่มะเขือเทศลงไป เมื่อมะเขือเทศสุก ปิดไฟ ใส่ใบมะกรูด น้ำมะนาว พริกขี้หนู ผักชีฝรั่ง และผักชี ชิมรสตามชอบ จัดใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูแห้งทอดพร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ เพื่อรสชาติแซบถึงใจ ขณะรับประทาน ตักแบ่งมาปรุงพริก และมะนาวตามชอบทีละถ้วยจะทำให้ได้รสชาติ และกลิ่นหอมจากพริกขี้หนู และมะนาวมากกว่า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)